การพัฒนาบทเรียนออนไลน์โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐานเพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนการเรียน เรื่อง แนวคิดในการแก้ปัญหา วิชาวิทยาการคำนาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนออนไลน์โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐานเพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนการเรียน เรื่อง แนวคิดในการแก้ปัญหา วิชาวิทยาการคำนวณ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้สื่อบทเรียนออนไลน์โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐาน และ 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของบทเรียนออนไลน์โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดวงกมล โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย 1 ห้องเรียน จากทั้งหมด 4 ห้องเรียน จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) บทเรียนออนไลน์โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐาน 2) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้สื่อบทเรียนออนไลน์ ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนออนไลน์โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐาน มีคุณภาพด้านสื่ออยู่ในระดับดีมาก (𝑥̅ = 4.50, SD = .05) และมีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดีมาก (𝑥̅ = 4.58, SD = .49) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้สื่อหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 89.43

The objectives of this research were to: 1) develop an online case study-based lesson for readiness before learning a concept of problem-solving in computing science subject, 2) compare learning achievements before and after using the online case study-based lesson, and 3) investigate the learning effectiveness index of the online case study-based lesson. The sample group used in this research was 30 students who were studying at Duangkamon school, which was a simple random sampling method from one class out of four classes. The research instruments consisted of: 1) an online case study-based lesson, and 2) a form to measure learning achievements before and after using the online case study-based lesson. The results of this research revealed that: 1) the quality of the online case study-based lesson in the aspect of the media was very good (mean= 4.50, SD = .05) and the quality of the content was very good (mean = 4.58, SD = .49), 2) learning achievements after using the lesson were higher than before using it at a statistical significance level of .05, and 3) the learning effectiveness index showed that learning progress was increased at 89.43%.